Tuesday, February 24, 2009

There's no other way than to say good-bye



ถ้าจำไม่ผิด ต้องไม่ใช่ตอนอยู่ปี 1 แน่ๆที่เพื่อนผมคนนั้นไปโผล่หน้าอยู่ในแค็ตตาล็อก habitat thailand สมัยนั้น ถ้าพ่อแม่ไม่รวยและตัวลูกไม่ได้บ้าแบรนด์ขนาดนั้น คงไม่มีเด็กมหาวิทยาลัยคนไหนเป็นเจ้าของเฟอร์นิเจอร์ habitat ทั้งห้อง ตอนปิดเทอมใหญ่ปีหนึ่งที่ไปลอนดอนกับที่คณะ เข้าไป habitat ก็ไม่ได้รู้สึกว่า ราคาจะแพงเหมือนตอนที่มาเปิดที่ดิสคัฟเวอรี่ใหม่ๆ
ผมยังจำได้ว่า habitat เคยแจกของรางวัลเป็นกรอบรูป ลงเป็น flipper ใน art4d (ถ้้าจำไม่ผิด) ตอนนั้นไปโกยมาได้หลายชิ้นเลยล่ะ ตอนที่ทำงานที่ art4d ใหม่ๆ ตอนนั้น british council + habitat + art4d จัด exhibition ที่ชื่อ Sphere ลากเอา Tom Dixon มาเมืองไทย ตอนนั้น Tom เป็น design director ให้ habitat งานนั้นเป็นงานกราฟิกชิ้นแรกที่ผมทำให้กับ british council
ผ่านไปสักพัก พอเห็นราคาของ habitat กลับไม่ได้รู้สึกว่าแพงอะไรมาก โดยเฉพาะพวก item ชิ้นเล็กๆ ไม่รู้ว่าเพราะทำงานหาเงินได้เองแล้ว หรือว่าเรื่มเข้าใจว่าราคาสินค้าที่รวมค่าลิขสิทธิ์ ค่าการตลาดและค่านู่นค่านี่ มันก็ไม่ได้แพงเกินความเป็นจริงสักเท่าไหร่
ตอนหลังๆที่เพื่อนสนิทคนหนึ่งทำงานที่ CHM และคอย update ข้อมูลคอลเลคชั่นใหม่ ทั้งของ Herman Miller และ habitat อย่างเสมอต้นเสมอปลาย น่าประหลาดที่มี Sale หลายต่อหลายหน ผมแทบไม่เคยมีโอกาสได้ซื้อสักที เพราะไปทีไรของที่อยากได้ก็หมดอีกแล้ว
คราวนี้ คงเป็นโอกาสสุดท้าย ที่จะได้หาซื้อของ habitat ในกรุงเทพฯ ผมคงไม่บ้าขนาดถ่อไปซื้อถึงลอนดอนแน่นอน แต่แค่คิดว่าต่อไปจะไม่มี habitat อีกแล้วก็รู้สึกพูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน ...

1 comment:

weloveveryday said...

from noo's email comment,


I think your friend's blog is pretty cool. I like the topics he wrote.

Belle

On Feb 25, 2009, at 11:19 AM, suthasinee wrote:


My friend blog….
http://nopolitricks.blogspot.com/
จบได้ซึ้งมากๆ J