Monday, April 6, 2009

Meetings with Remarkable People



สำหรับคนที่เรียนในโรงเรียนโปรแตสแตนท์มาตลอด 12 ปีอย่างผม เนื้อหาที่ได้อ่านเรื่องเกี่ยวกับ พระเยซู ในหนังสือ OSHO คุรุวิพากษ์คุรุ ของ GMBooks ที่แปลมาจาก Meetings with Remarkable People โดย โตมร ศุขปรีชา นับว่าน่าสนใจเกินคาด
ผมรู้จักชื่อ OSHO ครั้งแรกๆตอนที่ ภิญโญ เขียนถึงคำสอนของเขาลงในมติชน รายวัน ปีไหนจำไม่ได้แล้ว จำได้ว่าตอนนั้นไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะรู้สึกเฉยๆกับวิธีคิดแบบนั้น เหมือนเคยได้ยินจากที่อื่นมาแล้ว พอมาช่วง 2 ปีหลังตอนเดินตาม Kino หรือ Asia Books ก็เห็นปกหนังสือที่เขียนโดย OSHO เรียงเต็มแผงจนเอียนไปเหมือนกัน แต่พอเห็นเล่มนี้ที่ว่าด้วยการวิพากษ์คำสอนของเหล่าศาสดาและปราชญ์ที่สำคัญของโลก ก็เลยอยากรู้เหมือนกันว่า ผู้นำทางจิตวิญญาณที่ชาวตะวันตกศรัทธามากอย่างเขาจะวิพากษ์ศาสดาหรือนักคิดอย่าง พระพุทธเจ้า พระเยซู​ คาริล ยิบราน หรือว่า นีทเช่ ได้น่าสนใจแค่ไหนกัน
OSHO เปิดเรื่องด้วยประโยคคำถามว่า ใครคือพระเยซู เขาคิดว่า ผู้ตั้งคำถามนี้ผิด ผู้ตอบจึงผิดไปด้วย คำถามนั้นมาจากคนที่สงสัยในความเป็นพระเจ้าของพระเยซู และคำตอบก็มาจากคนที่ไม่พร้อมจะเชื่อในความเป็นมนุษย์ของพระองค์ ชาวยิวพร้อมจะเชื่อว่าพระองค์เป็นมนุษย์ ส่วนชาวครืสต์พร้อมจะเชื่อว่าพระองค์เป็นพระเจ้า ทุกคำถามที่ถามนั้นผิด คำตอบก็เช่นกัน เพราะอะไร ก็เพราะคำตอบนั้นมาจากความรู้ของชาวยิว หรือความรู้แบบมุสลิม หรือ ฮินดู ส่วนคำตอบมาจากความรู้แบบคริสต์ และความรู้นั้นก็ไม่อาจให้คำตอบได้
ในทรรศนะของ OSHO นั้น พระเยซูไม่เคยสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน เพราะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 48 ชั่วโมงกว่าคนจะตายบนไม้กางเขนของชาวยิว พระเยซูถูกนำลงจากไม้กางเขนหลังเวลาผ่านไปแค่ 6 ชั่วโมง เป็นการสมรู้ร่วมคิดกันระหว่างเศรษฐีที่เห็นใจพระเยซูกับปอนทิอัส ปิลาส พวกเขาตั้งใจตรึงกางเขนให้ช้าที่สุดของวันศุกร์ เพราะวันเสาร์เป็นวันซับบาธ ชาวยิวจะหยุดทำทุกอย่าง
ทีนี้เราก็พอจะเดาได้ถึงเรื่องการฟื้นคืนชีพของพระเยซู - จริงๆแล้วพระองค์ถูกพาไปจากแคว้นจูเดีย พอหายดีแล้วก็ย้ายไปอินเดียและมีชีวิตยืนยาถึง 112 ปีที่แคว้นแคชเมียร์
OSHO บอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญ ที่พระเยซูสิ้นพระชนม์ที่แคชเมียร์เช่นเดียวกับโมเสส OSHO ยืนยันว่าตัวเองเคยไปหลุทศพของทั้วคู่มาแล้ว ที่กล้ายืนยันว่าเป็นหลุมศพของทั้งคู่ เพราะหลุมศพสองแห่งนี้เท่านั้นที่ไม่ได้หันไปยังกรุงเมกกะ ทั้งที่ชาวมุสลิมจะฝังศพโดยให้ศีรษะหันไปทางกรุงเมกกะ ที่สำคัญคือ คำจารึกบนหลุมศพเป็น ภาษาฮีบรูว์ ที่เขียนเอาไว้ว่า โจชัว
ก็อย่างที่บอกแต่แรกคือ ผมไม่เคยได้ยินทฤษฎืนี้มาก่อนจริงๆ และถ้าอยากรู้รายละเอียดยิบย่อย ลองหาอ่านกันได้่ครับ สนุกมาก ไม่เฉพาะเรื่องพระเยซู แม้แต่นีทเช่ OSHO ยังกล้าพูดเลยว่า จริงๆแล้วเค๊าอาจจะเจ๋งกว่า พระพุทธเจ้า ด้วยซำ้ ถ้าเกิดทางตะวันออก

No comments: