Wednesday, December 24, 2008

what the hell




เอามาจากบทสุดท้ายของหนังสือ พระเจ้าและผีห่าซาตาน ความรู้เรื่องผี ที่ไม่น่ากลัวแต่น่าศึกษา เขียนโดย นพพร สุวรรณพานิช พิมพ์โดย openbooks บทสุดท้ายว่าด้วยเรื่อง นรกในอินเดียและความเชื่อในประเทศต่างๆ น่าสนใจดีเลยคัดแบบแปลงเนื้อหาให้อ่านกระชับขึ้นกว่าของต้นฉบับ คำว่า นรก ในความหมายของ hell แปลว่า ที่หลบซ่อน hell ต้องอยู่ใต้พิภพ ปกติใช้ไฟในการลงโทษ นีรย คือสถานที่อันปราศจากความดี
นรกร้อนมี 8 ขุม เมื่อลมพัดผ่าน เหล่าสัตว์นรกที่ตายแล้วก็ฟื้นขี้นมารับกรรม ต้องลงฑัณฑ์ทั้งหมดนาน 500 ปีนรก = 9 ล้านปีมนุษย์ ขุมนี้เรียกว่า สัญชีพ แปลว่า ไม่ตาย แต่ถ้า 1,000 ปีนรก = 26 ล้านปีมนุษย์ และถ้า 2,000 ปีนรก เท่ากับ 145 ล้านปีมนุษย์
สัตว์นรกบางประเภทต้องครำ่ครวญจนสิ้น 4,000 ปีนรกหรือ 567 ล้านปีมนุษย์ เรียกว่า โรอุระ แปลว่า ครำ่ครวญ ส่วนสัตว์นรกที่ต้องอยู่ 8,000 ปีนรก = 2,305 ล้านปีมนุษย์ เรียกว่า มหาโรอุระ สัตว์นรกที่ต้องอยู่ 16,000 ปีนรก เท่ากับ 9,216 ล้านปีมนุษย์ เรียกว่า ตาปนะ แปลว่า ความร้อน ส่วนสัตว์นรกที่ถูกทรมานอยู่ 1 กัลป์เรียก มหาตาปนะ แปลว่า ร้อนอันมหาศาล
ส่วนอเวจีนั้นร้อนที่สุด แปลว่า ไม่หยุดพัก
นรกแต่ละขุมกว้าง ยาว ด้านละ 1,000 โยชน์ หนาอีก 9 โยชน์ ลึกลงไปจากโลกมนุษย์อีก 1,000 โยชน์ แล้วยังมีนรกเย็นอีก 10 ขุมแบ่งเป็นชั้นๆเหมือนนรกร้อน
ส่วน โลกันคนรก อยู่ระหว่างช่องระหว่างจักรวาลสามแห่ง มีช่องว่าง 8,000 โยชน์ ด้านบนเปิดเป็นปล่อง ด้านล่างหนาวเย็นไม่มีแสงสว่าง สำหรับคนที่ตอนเป็นมนุษย์ ฆ่าพ่อ แม่ ฆ่าสมณพราหมณ์ และทำให้พระพุทธเจ้าห้อเลือด
ชาวกรีกเรียก นรกว่า hades แปลว่า ดินแดนที่มองไม่เห็น

หนังสือเล่มนี้สนุกมาก ไม่ได้มีแค่เรื่องนรก แต่รวบรวมเรื่องราวของผี ห่า ซาตาน พระเจ้า ไสยศาสตร์ ความเชื่อต่างๆที่น่าสนใจ ที่เลือกเรื่องนรกนั้นเพราะผมสนใจ ระบบคณิตศาสตร์ การคำนวณและตรรกะระหว่างปีของนรกกับปีของมนุษย์ ไม่รู้ว่าใช้วิธีใดคำนวณ รวมทั้ง สถานที่อย่าง อเวจี ที่เปรียบเทียบให้การฆ่าพ่อแม่มีโทษทัณฑ์เท่ากับการทำให้พระพุทธเจ้าห้อเลือด ตรรกะนี้ก็แปลกมาก เพราะจำได้ว่า พระพุทธเจ้าเคยพูดเอาไว้ว่า พ่อแม่นั้นยิ่งใหญ่และเป็นยิ่งกว่าพระพุทธองค์สำหรับลูก มัน ironic หรือผมจำผิดไปเอง เป็นคำของท่านพุทธทาสหรือเปล่า ... ใครรู้ช่วยบอกทีครับ

Tuesday, December 16, 2008

no country for old woman






ภาพชุดนี้เป็นภาพที่สะเทือนความรู้สึกที่สุดของการมาทริปที่ shanghai จำได้ว่าขอแยกกับแพนและพัสเพราะขี้เกียจเข้าไปเดินช็อป
ที่ที่ไปเป็นห้างขายของถูกประมาณแพลตตินัมผสมกับโบนันซ่า ชั้นล่างเป็นของแบรนด์เนมปลอม ชั้นนึงเป็นของผู้หญิง อีกชั้นเป็นของผู้ชาย และอีกชั้นเป็นของ unisex ผมแยกออกมาถ่ายรูปรอบๆ ย้อนกลับไปทางที่มา เป็นตลาดขายอาหารทะเลสดๆ ถัดไปอีกหน่อยเป็น street food หน้าตาคล้ายๆกับขนมผัดกาดอยู่ในหม้อขนาดเดียวกับหม้อต้มขาหมูบ้านเรา
เดินเลยไปเรื่อยๆ จากซอยนั้น จะเจอประติมากรรมขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางสวนหย่อมริมทางเท้า ผมคิดในใจว่ามันเหมือนเห็ดเข็มทองสีปรอท นั่นไม่สำคัญเท่ากับที่ผมเห็นภาพของป้า ..
แกอายุน่าจะประมาณ 50 ปลายๆ กำลังก้มๆเงยๆอยู่หลังเห็ดเข็มทองปรอทที่ว่า สวมเสื้อเหลืองเดียวกับอูม่า เทอร์แมนใน kill bill กางเกงสีเขียวข้างๆเป็นลุงแก่ๆที่มาด้วย แกยืนถืออะไรบางอย่างคล้ายเชือก ... ใช่แล้ว เชือก ... ไม่ได้ถือ แต่จูงต่างหาก ลุงคนนั้นจูงหญิงแก่คนนั้นมาขี้กลางสวนหย่อมริมทางเท้า เชือกเส้นนั้นน่าจะพันรอบเอวของแก .. นอกจากผม มีคนยืนดูอยู่ 2-3 คน ด้วยความไม่แน่ใจว่า สองคนนั้นกำลังทำอะไรกลางสวนหย่อม ด้วยความอยากรู้-เห็นของเรา
ให้พูดตรงๆคือ ไม่ต่างจากพาหมามาขี้ ผิดแต่เพียง หมาตัวนี้ไม่ใช่หมา แต่เป็นคน เป็นคนเพศเดียวกับแม่ผม .. ทำไมต้องใช้สายจูง ผมคิดต่อมาอีกหลายชั่วโมง เรื่องของแก ภาพสุดท้่ายที่ผมจำแม่นเลยคือ ภาพที่ป้าใช้กระดาษ เป็นกระดาษหนังสือพิมพ์เก่าๆ เช็ดตูดอยู่นาน ...
ภาพที่เห็น ไม่ตลกแม้แต่น้อย เกิดอะไรขึ้นกับคนด้วยกัน ทำไม คนถึงทำกับคนเยี่ยงนี้
พยายามคิดต่อเอาเองแบบ optimistic ว่า ลุง- ป้าคู่นี้ คงเป็นคู่รักกันมานาน อาจจะเสียลูกไป ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน ป้าเกิดเสียสติจนบ้าขนาดที่ต้องคุมตัวไว้ตลอด ไม่งั้นจะหนีหรืออาละวาดทำอันตรายคนอืนตามฟุตบาธ ... แต่ ... ภาพที่เห็นมากับตา จนแล้วจนรอดก็ทำให้ผมย้อนกลับไปที่เดิม .. ป้าคนนี้เป็นคน เป็นคนเพศเดียวกับแม่ผม อะไรใน shanghai ทำให้สองคนนี้ต้องเป็นแบบนี้ .. เอวัง