Friday, May 22, 2009

Director of the Year - 2022




ไม่เคยอ่านบทสัมภาษณ์ของทรนง ศรีเชื้อ แบบเต็มพิกัดมาก่อน เคยเห็นแว๊บๆบนจอโทรทัศน์ตอนโปรโมทหนัง กลกามแห่งความรัก ไม่ก็ สวรรค์ชั้น 7 แล้วก็มาเห็นในเอ็นเตอร์เทนสักฉบับ ที่พูดถึงเรื่องที่ลงทุนสร้างโรงถ่ายหนังที่กะให้ใหญ่โตและเพียบพร้อมที่สุดในเอเชีย (...คงฝันไป) มาเห็นอีกทีก็เป็นข่าวว่าโดนสังคมทวงถามถึงความเหมาะสมในการใช้ภาพศพที่ตายเกลื่อนหาดช่วงที่เกิดสึนามิมาเป็นภาพคัทเอาท์โปรโมทหนังใหม่ของตัวเอง ครับ เรื่อง 2022 สึนามิ วันโลกสังหาร... ตอนที่ลงข่าวเรื่องนี้ ถ้าจำไม่ผิด ทรนง พูดประมาณว่า นี่เป็นภาพที่เขาเอามาจากอินเตอร์เน็ต ตามฟอร์เวิร์ด เมล์ ไม่คิดว่าจะทำให้สังคมเกิดตวามระคายเคืองขนาดนี้ ... ที่พูดมานั่นยังไม่สลักสำคัญเท่ากับบทสัมภาษณ์เต็มเหยียดในนิตยสาร FILMAX ฉบับที่ 22 เมษายน 2552... เอาแค่ตัวโปรยตรงหน้าเปิดก็เพิ่มดีกรีความน่าอ่านเข้าไปไม่รู้เท่าไหร่ "2022 สึนามิ วันโลกสังหาร" เสียงเตือนจากผู้กำกับหนังที่ถูกตราหน้าว่า บ้า ที่สุดในวงการหนังไทย .. ขนาดไหน โปรดติดตาม..

ขอตัดเรื่องที่พูดโปรโมทหนังใหม่ของตัวเองและเข้าเรื่องของ ความคิดและทรรศนะในการ.. เอ่อ ในการอะไรดี ? ไม่รู้จริงๆว่าจะใช้คำไหนอธิบาย เอาเป็นว่าลองอ่านที่่คัดมา แบบไม่มีการรีเมคเพิ่ม ตัดมาเฉพาะคำพูดที่น่าสนใจว่าจริงๆแล้ว ทรนง ศรีเชื้อ ต้องการจะบอกอะไรถึงคนอ่านบทสัมภาษณ์ของเขากันแน่ ... ขออภัยทาง FILMAX ที่นำบทสัมภาษณ์นี้มาโดยไม่ขออนุญาตก่อน ที่เอามาลงก็เพื่อเป็นกรณีศึกษาและเพื่อการศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์ประเภทหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาทางด้านการแสวงหาผลทางธุรกิจใดๆทั้งสิ้น

ทรนง : คนเมื่อก่อนสามารถทนความหนาวจัด ร้อนจัดได้ เพราะเมื่ออากาศร้อนจัด เค๊าไม่เคยอยู่ห้องแอร์ เวลาหนาวจัดก็ไม่ได้มีเครื่องทำความร้อน นั่นคือระบบที่มนุษย์อยู่กับธรรมชาติ แต่ทุกวันนี้ เด็กรุ่นใหม่อยู่กับห้องแอร์ ห้องปรับอากาศ เมื่อเค้าไปเจออุณหภูมิที่แตกต่างเพียง 2-3 องศา เค้าจะรู้สึกผิดปกติทันที เค้าจะรับไม่ได้ นั่นคือสิ่งที่ผมเรียนรู้มา

ทรนง : "... น้ำ CG เข้ามา มันจะไม่มีน้ำหนักเหมือน จูราสสิกพาร์ก หรือไดโนเสาร์ทั้งหลายแหล่ที่เราดูน่ะ คุณเห็นไหม ไดโนเสาร์แม่งตัวใหญ่ฉิบหาย ทำไมมันวิ่งเบาหวิว นั่นคือ คอมพิวเตอร์กราฟิก ผมดูแล้วมันไม่ได้ ..."

ทรนง : จริงๆผมมี 3 แนว เวอร์ชั่นแรก ผมทำหนังสงคราม ก็ทราบกันดีใช่ไหม ผมทำหนังสงครามมากที่สุดในโลก สัตว์สงคราม - ไทยรบในลาว มหาราชดำ - ไทยรบกับพม่า จางซีฟู - ไทยรบกับขุนส่า แหกนรกเวียดนาม - ไทยรบเวียดนาม กัมพูชา - ไทยรบกัมพูชา เวอร์ชั่นที่ 2 ก็คือ อุบัติโหด - คือ มือปืน กลกาม - คือ โสเภณี เป็นอาชีพที่เน้นๆ ผมทำกลกามฯ ทำ มาม่าซัง ทำ สวรรค์ชั้น 7 เป็นเรื่องของผู้กำกับคนนึงทำหนังสงครามมาตลอดแล้วล้มเหลว คนไม่อยากดู ผลสุดท้ายพอไปทำหนังเรตอาร์แล้วคนแห่มาดู ซึ่งก็คือเรื่องของผมเอง เสร็จแล้วทิ้ง จะไปสร้างโรงถ่าย พอไปเจอ IMF ก็กลับมาทำหนังอีกแนว ก็เริ่มจาก อมนุษย์ ก็คิดแบบคนแก่แล้วล่ะ คือ ทุกอย่างต้องลุ่มลึก แต่ก็ล้มเหลว ก็เลยมาจับสึนามิ

ทรนง : ทุกวันนี้ไม่ใช่ ทุกวันนี้ผู้กำกับนั่งหน้ามอนิเตอร์ เท่ฉิบหายเลย (หัวเราะ) ดื่มโค้ก ดื่มเบียร์ คนละอารมณ์ .. ผู้กำกับรุ่นใหม่ ผู้กำกับเมืองไทย มือดีๆหลายคน ขาดอย่างเดียว เค๊าขาดประสบการณ์ ไม่ใช่ประสบการณ์ทำหนังนะ ประสบการณ์ชีวิต อย่างผมนี่เคยเดินจากนี่ไปเชียงราย เดินเท้าเปล่า ผมเคยไปหมกตัวอยู่ในป่าอยู่เป็นปี ... รุ่นผมนี่ 14 ตุลาเดินแถวหน้า ตีหัวหมา ด่าแม่คน สูบกัญชาชักดิ้นกระแด่วๆ นี่ทำมาหมดแล้ว ...

ทรนง : พอได้เงินมาเสร็จปุ๊ป เคีาก็มานั่งหน้ามอนิเตอร์ เค้าไม่เคยรู้ว่า ล่องแก่งมันเป็นยังไง ความตายมันเป็นยังไง เค้าไม่เคยเห็นคนตายมันเป็นยังไง คนโดนยิงมันเป็นยังไง คนเจ็บปวดมันเป็นยังไง เค้าไม่เคยมีหนี้เป็น 100 ล้าน เค้าไม่เคยนอนกับผู้หญิงมา 100 คน เค้าไม่เคยอดจนไม่มีข้าวกินมา 7 วัน พอเป็นอย่างงี้ปุ๊บ มันจะทำอะไรล่ะ ก็ต้องทำหนังผี เพราะหนังผีเป็นเรื่องเดียวที่คิดเอาเองได้หมด ถูกต้องไหม คุณจะทำหนังผียังไงก็ได้ ผีหกหัว เจ็ดขาก็ได้ ทำได้หมด เพราะฉะนั้นคนรุ่นใหม่จะรู้เรื่องเทคโนโลยีหมดเลย แต่ไม่รู้อะไรเลย
พอพูดประโยคนี้จบ คนสัมภาษณ์ถามกลับเลยว่า : พูดแรงไปหรื่อเปล่าครับ

ทรนง : ไม่ได้แรง ตรง! เอ้า ลูกผมอายุ 37 เนี่ย มันก็เรียนหนังมาโดยตรง แต่ผมไม่ให้ลูกผมเข้ามาในวงการเลย เพราะเค้ายังไม่รู้จักชีวิต

ทรนง : ไอ้นั่นเค้าเรียกของปลอม นั่นคือ เฟค คุณไม่ต้องเอาเรื่องความเป็นความตายหรอก คนรุ่นใหม่ เอาแค่ความเหงา เฮ้ย มึงลองมานั่งอยู่คนเดียว 3 วัน 3 คืนแล้วไม่มีคนมาเยี่ยมมึง แฟนมึงไม่มา พ่อแม่มึงไม่มา แค่นั้นก็ตายแล้ว เหงาจริงๆมันต้องเหงาที่ชายแดน เหงาจริงๆแม่งต้องเหงาแล้วงูจะกัดกูหรือเปล่า เสือจะแดกกูหรือเปล่า คอมมิวนิสต์จะยิงกูหรือเปล่า

ทรนง : วันนี้คุณนั่่งเล่นเกมตั้งแต่ 10 โมงเช้าจนถึงตีหนึ่ง คุณยิงไป 200 ศพ คุณออกไปที่ถนนแล้วคุณเจอมือปืนเดินมาเอาปืนจ่อหัวคุณโดยไม่มีลูกนะ แช๊ะเดียว เยี่ยวคุณราดเดี๋ยวนั้นเลยนะ

ทรนง : อย่าง เจ้ย (อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล) เนี่ย ชอบ แต่เค้าก็ยังต้องสั่งสมประสบการณ์ให้่มากขึ้นอีก เค้ายังปรับตัวเข้ากับโลกไม่ได้ เหมือนผม ตอนนี้ผมก็ยังปรับตัวเข้ากับโลกไม่ได้ (หัวเราะ)

ทรนง : ผมไม่กลัว เพราะว่าตอนนี้ผมทำโรงถ่ายเป็นพันล้าน หนักกว่านั้นเยอะ

ทรนง : ผมก็สู้ดิ ผมเคยสู้ ผมเคยตัดนิ้วตัวเองมาแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ตัดนิ้วตัวเองแล้ว สาบาน ตัดนิ้วคนอื่น (หัวเราะ) คนทำหนังสมัยนี้มันไม่สู้กันไง อย่าให้พูดเลย ผมอยากให้ผู้กำกับหนังแม่งมา เฮ้ย! อยากทำหนังมาคุยกับทรนง จบ ดีจริงได้ทำแน่นอน ผมอนุมัติ คุณก็สร้างเลย แต่ไม่มีใครกล้ามาเลย มันกลัวผมหมดไง (ห้วเราะ)

ตัดสินกันได้เอง ผู้กำกับหนังไทยวัย 58 ผู้ซึ่งเคยผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านคาวชีวิตมาเจ็ดย่านนำ้ เต็มเปี่ยมด้วยประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาเอาได่้จากการ surf net วิธีการพูดการคิดทั้งในแง่ของการทำงานหรือชีวิตส่วนตัว-การทำหนังหรือว่าการเลี้ยงลูก ทรนงตัวเองเพราะรู้ตัวว่าไม่ได้ทรนง โลกแคบและยึดติดหรือไม่ - ไม่ทราบจริงๆ เพียงแต่นึกย้อนไปถึงทฤษฎีการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตของ ชาร์ลส ดาวิน พวกที่ไม่รู้จักการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมจะค่อยๆตายและสูญพันธุ์ไปเอง ใช่แล้ว มันไม่มีอะไรมากเพราะพวกมันเอาแต่ทรนง.

2 comments:

ToeyToeyToey said...

พูดแรงไปหรื่อเปล่าครับ 555

Anonymous said...

ทรนงตามชื่อเลย