Tuesday, October 6, 2009

An Inconvenient Tooth (2).



(เรื่องยาว)
รู้สึกว่า การบันทึกข้อมูลที่เกิดขึ้นลงใน blog มันมีประโยชน์ก็ตรงที่สามารถ trace back กลับไปได้ว่าเกิดอไรขึ้นบ้าง
"เพราะหัวกระแทกตอนเดินข้างถนนที่เชียงใหม่ทำเอาปวดฟัน ตอนแรกปวดฟันบนด้านซ้าย แต่พอมากลับมากรุงเทพฯ มันดันปวดฟันล่างด้านซ้ายแฮะ อาการชักจะแปลกๆ และมันทำให้ผมได้พบกับประสบการณ์ใหม่ที่โคตรจะตื่นเต้น ที่ศูนย์ทันตกรรมของโรงพยาบาลกรุงเทพ ตึกที่อยู่ติดถนนเพชรบุรี ปากซอยศูนย์วิจัย .. ที่นี่ทำให้ผมคิดว่าตัวเองหลงอยู่ในฉากหนังไซไฟจริงๆ " - ตัดมาจากข้อความใน blog ที่เขียนไว้เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2552 (Fantastic Plastic Machine)
ตอนที่เข้าไปโรงพยาบาลกรุงเทพ สิ่งที่ผมต้องทำใหม่หมดเลยคือ เรียนรู้วิธีแปรงฟันใหม่หมด เพราะหมอฟันที่ไปหาเค็าไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าเป็นอะไร รู้แต่ว่า เหงือกมันร่น สาเหตุน่าจะมาจากแปรงฟันแรงเกินไป - อันนี้เรื่องจริง- เพราะตอนมัธยมปลาย ดัดฟัน และคงเป็นโรคระแวงจัดว่าฟันที่ติดเหล็กมันจะไม่สะอาด ถ้าไม่แปรงแรงๆ นั่นแหละ สาเหตุเหงือกร่อน หมอฟันที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ต้องเรียกอาจารย์ของเค๊ามาช่วยวินิจฉัย ผมต้องถูกส่งไป X-ray อีกรอบ พร้อมกับนัดให้ไปหาหมออีกคนหนึ่ง เพื่อทำอะไรกับฟันซี่นั้น ผมก็จำได้เลือนราง
สรุปว่า ต้องทำ Night Guard เพื่อกันไม่ให้ตอนกลางคืนการนอนกัดฟันโดยไม่รู้ตัวมีฟันยาง (ที่ทำจากซิลิโคน) กันไว้ ต้องกลับมาทำกับหมออีกคน แม่งเริ่มงงแล้ว ก็ตอนแรก ถ้าหัวไม่เสือกกระแทกกับท่อเหล็กแล้วผมจะรู้ตัวเมื่อไหร่วะว่า นอนกัดฟัน
เอาเป็นว่า หมออีกคน (ตอนนี้ใช้หมอ 3 คน) บอกว่า ต้องอุดมันก่อน แต่ก็มีโอกาสที่จะต้องรักษารากฟัน - คำถามคือ ถ้าหัวไม่เสือกกระแทกกับท่อเหล็กแล้วผมจะรู้ตัวเมื่อไหร่วะว่า ต้องรักษรากฟัน มันไม่น่าเกี่ยวเลยนี่หว่า ตอนนี้มั่นใจแน่ๆว่า เสียเงินอีกเพียบตั้งแต่ต้นปี และจะเป็นอย่างงี้ไปอีกทั้งปี ผมเลยหันหลังให้กับโรงพยาบาลกรุงเทพ (ยกเว้นการทำ Night Guard) แล้วหันมารักษาฟันกับหมอฟันประจำบ้าน แต่แล้วเรื่องกลับห่วยเข้าไปอีก นับเป็นความโง่ของตัวเองเหมือนกัน ที่ไม่ได้สังเกตจริงจังว่า หมอฟันประจำบ้าน คนนี้ รักษาแบบ แทบไม่ดู Film X-Ray เลย ให้ตายเหอะ
สุดท้าย ผมก็ไปรักษารากฟันกับหมอคนนี้ แกอายุ 58 แล้ว อีก 2 ปีจะเกษียณ เป็นอาจารย์ประจำคณะทันตะ ของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง มีคลินิกอยู่ไกลชิบที่ Future Park บางแค, เตาปูนและ แถวหมู่บ้านของแก (ซึ่งก็โคตรไกล) รักษารากฟันอยู่ประมาณ 2 เดือน - ไอ้ซี่ที่เห็นในภาพนี่แหละ - อย่าพึ่งตลกนะ ถ้าเดาถูกก็จะรู้ว่า ไอ้ซี่ที่ถ่ายรูปมาให้ดู มันคือซี่ที่รัักษารากฟันนี่แหละ บอกตามตรงว่า ผมขำไม่ออกเลยว่ะ

No comments: