Friday, March 13, 2009

Fallen Angel







เพราะต้องมารักษารากฟันที่ฟิวเจอร์พาร์ค บางแค เป็นประจำทุกอาทิตย์ เลยได้เจอกับ ANGEL นิตยสารแฟชั่นที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันเคยมีอยู่ในโลกนี้ด้วย เลยค่อยๆ หยิบมาพลิกๆ ดู ไล่ไปตั้งแต่ปกหน้าจนถึงหน้าสุดท้าย เลยทำให้รู้ "รสนิยม" ในการทำหนังสือของยุคสมัยนั้น
ANGEL ฉบับที่ 10 เอ่อ โทษที ต้องเขียนตามอย่างที่พิมพ์ดีกว่า ... ข้างใต้หัว ANGEL เขียนฉบับที่และราคาเอาไว้ว่า No.10 SEPTEMBER 1994 45 Baht ต่อด้วยชื่อเมืองเป็นภาษาอังกฤษดังนี้ Bangkok Sukhothai Had Yai Ubon Lobburi Rayong Nakornsrithammarat เกิดคำถามแล้วใช่ไหม? ตอนที่เห็นแวบแรกเลยคือ ทำไมถึงต้องเป็นชื่อจังหวัดพวกนี้ด้วย ทำไมต่อจาก บางกอก ถึงเป็น สุโขทัย หาดใหญ่ (นี่ไม่ใช่จังหวัดแต่เป็นอำเภอ) อุบล (ใช้ตัวย่ออย่างงี้เลย) ต่อด้วย ลพบุรี (ทำไมวะ) ระยอง และ นครศรีธรรมราช ... เดาว่า อยากใส่ชือเมืองโปรยลงไปให้ละม้ายนิตยสารหัวนอกทั้งหลายที่ใส่พวก London Paris Milan New York Tokyo แล้วก็ดูไม่เคอะเขิน แต่นี่ ... นอกจากการเลือกที่จะใส่ลงไปแล้ว ทำไมถึงต้องเป็นจังหวัดพวกนี้หว่า ? สมัยนั้น ( ปี 1994 หรือกว่า 15 ปีมาแล้ว ) วงการแฟชั่น คนฮิปๆ เค๊านิยมไป หาดใหญ่ ลพบุรี สุโขทัย หรือระยอง กันใช่หรือไม่ ... ผมไม่ทราบจริงๆ พอเห็นหัวหนังสือและหน้ามอสที่ลงปกแล้ว ทำให้อยากรู้เหลือเกินว่า ใครคือทีมงานผู้ผลิต ANGEL ตามไปดูกัน...
เปิดไปที่หน้าเครดิต หรือที่เขาเรียกว่าหน้าเปิดใจ ก็พบกับ slogan ของนิตยสารเล่มนี้จนได้ ANGEL นิตยสารมีชีวิต ... ผมสาบานได้ว่าข้อความทั้งหมดนี้ไม่ได้แต่งเติมใดๆทั้งสิ้น คราวนี้แหละยิ่งอยากรู้หนักเข้าไปอีกว่าใครเป็นคนทำ มองหาเครดิตจนพบว่า (เขาใช้คำดังต่อไปนี้ - โปรดอ่าน) พี่เลี้ยงด้านบริหารและผู้พิมพ์ผู้โฆษณา - พี่แอ คำรณ ปราโมช ณ อยุธยา คือ ทุกตำแหน่งจะขึ้นต้นด้วยคำว่า พี่เลี้ยง เสมอ (คล้่ายๆกับหน้าเครดิตของ a day บางเล่ม) อีกคนที่จดมา คือ พี่เลี้ยงด้านทำหล่อทำสวย (ไม่แน่ใจจริงๆว่ามันคือหน้าที่อะไรในกองบรรณาธิการ) โค้ชทีมโดย พี่ใหญ่ อมาตย์ นิมิตภาคย์ จนมาถึงบรรทัดท้ายๆของเครดิตก็มีเขียนเอาไว้ว่า เป็นน้องแท้ๆของนิตยสาร IMAGE ห่างกัน 5 ปีกับ 11 เดือน

ตรงหน้าเปิดใจ ก็คงคล้ายๆกับหน้า บรรณาธิการ เขียนทักทายผู้อ่านทั่วๆไป แต่หน้านี้เป็นบันทึกของยุคสมัยก็ตรงประโยคนี้ "ถ้าขี้เกียจเขียนจดหมายหาเรา ก็โทรหากันได้ที่เบอร์ ... (ยังไม่มี 02 นำหน้า) ไฮเทคหน่อยก็ขอเชิญหมุน 162 ฝากข้อความหมายเลข 134422..." ใช่ครับ นี่คือช่องทางติดต่อกันสมัยนั้น สมัยที่ยังไม่รู้จักโลกของ worldwideweb ข้อสังเกตคือการเลือกใช้ ฮัทชิสัน อาจจะดูแล้วมีระดับกว่าเจ้าอื่นที่ดาษๆอย่่าง packlink (1144) phonelink (152) หรือว่า easycall (1500) นี่อาจเป็นการบ่งบอกรสนิยมของแฟชั่นกูรูสมัยนั้นก็เป็นได้

เห็น ANGEL เล่มบางๆแต่พลิกไปดูหน้าสุดท้ายทำเอางงไปเลยที่นิตยสารเล่มนี้หนาตั้ง 200 หน้า! ตัวเลขหน้าเขียนกำกับเอาไว้ว่า "ส่วนที่" หมายความว่า หน้าแรกก็จะเป็น "ส่วนที่ 1" ไล่ไปจนหน้าสุดท้ายคือ ส่วนที่ 200 ANGEL ไม่ได้พิมพ์ 4 สีทั้งเล่ม แต่เป็นกระดาษอาร์ตที่พิมพ์ 4 สีสลับกับกระดาษปอนด์ที่พิมพ์สีเดียว เปิดไปแต่ละหน้าพร้อมความรู้สึกที่บีบคั้นมากมาย ลองดูภาพตามไปแล้วคงเข้าใจ

นายแบบ set หนึ่งคือ ฟลุ๊ค เกริกพล สมัยตอนอายุ 16 ปี ฟลุ๊คให้สัมภาษณ์ด้วยว่า ถ่ายแบบครั้งแรกลงนิตยสาร อานนท์ เล่มที่ เจ มณฑล จิรา ขึ้นปก (ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่า อานนท์คือนิตยสารของพจน์ อานนท์ หลังจากแยกตัวออกมาจาก เธอกับฉัน) ภาพแฟชั่นในเล่มส่วนมากคืองานของ อมาตย์ นิมิตภาคย์ ผมพอจะยอมรับได้ว่า สมัยนั้นยังไม่มี photoshop การจัดแสงถ่ายแฟชั่นคงต้องใช้ความสามารถและทักษะชั้นสูงอยู๋มากทีเดียว แต่ถ้าให้พูดตามตรงก็คือ แฟชั่นเซ็ตที่อมาตย์ถ่ายออกมาหน้าตาเหมือน ภาพในหนังสือโป๊ไทยสมัยก่อนจริงๆ มี set นึงชื่อว่า girl & boy ก็จับเอานายแบบ นางแบบ หลายๆคนมาถ่ายรวมกัน มี เรย์ แมคโดนัล แอนท์ ธรัญญา และ เบิร์ด (Byrd) พิทยา ณ ระนอง ในหน้าเครดิตนายแบบ-นางแบบบอกไว้ว่า พิทยาอายุมากสุดในเซ็ตนี้ -ตอนที่ถ่่ายเขาอายุ 24-
พลิกต่อไปเรื่อยๆ เจอกับคอลัมน์ NEW ANGEL หนุ่มหน้าใส วัยละอ่อน นายแบบหน้าใหม่สุดๆที่เป็น NEW ANGEL เล่มนี้คือ เจสัน ยัง!! แถมด้วยหน้าที่ว่าด้วยเรื่องเสื้อผ้าของดารา ก็เลือกสัมภาษณ์การแต่งตัวของ Raptor !! จอนนี่ แอนด์ หลุยส์ !! หน้าดวงใช้ชื่อประมาณว่า ดาราดูดารา เป็นการจับเอาดารามาแฉเรื่องดวงชะตาราศรี เล่มนี้คือ ดวงชะตาของ วีนัส มีวรรณ์ !! พอถึงหน้า MUSIC CHART ก็มีทั้ง chart เพลงไทยและเพลงฝรั่ง ของไทยเป็นอัลบั้มส่วนของฝรั่งเป็น single ณ เวลานั้นอัลบั้มอันดับ 1 คืออัลบั้ม ทีของเสือ ของ เสือ ธนพล ส่วนอันดับ 6 คืออัลบั้มนี้ครับ ยังไงก็ไม่เรียบ ของยู่ยี่ ลืมไปเลยว่า ยู่ยี่เคยออกเทป เพลงฝรั้งก็อย่างของ TakeThat หรือ Love is All Around ของ wet wet wet

นอกจากเนื้อหาที่เล่าให้ฟังแล้ว โฆษณา ที่ลงใน ANGEL ก็ถือเป็นไฮไลท์ที่สนุกมากมาย Ad ของอะไรก็ไม่รู้ เอาลูกเกด เมทินี ตอนที่ยังดูอ้วนๆอยู่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ Ad ของ KA Cream หรือแม้แต่ Ad ของ A&W ก็ตลกเกินคาด ที่ประทับใจสุดๆก็คือ Ad ที่ลงปกหลังใน เป็น "รูปถ่าย"ของหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังโอ้โลมกันอยู่ มี Head Copy เขียนไว้ว่า ยับยั้ง... ชั่งใจ รักกันไม่เห็นผิด แต่ถ้าคิดจะเกินเลยไป ชั่งใจไว้ก่อน... เรารักวัฒนธรรมไทย ต่อด้วยคำบรรยายด้านล่างว่า ปี 2537 ปีรณรงค์วัฒนธรรมของไทย ด้วยความปรารถนาดีจาก สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ

นี่คือยุคสมัยหนึ่งของ style magazine ไทย ตัวโปรยบนปกที่เล่นมันทั้งไทยและอังกฤษ (ใช้ helvetica Regular เคาะ space เยอะๆ และใส่ stroke เข้าไปด้วย ส่วนภาษาไทยลืมดู) เสื้อผ้า หน้า ผมและสไตล์ลิ่ง เอ่อ ลืมบอกไปว่า ตั้งแต่ครั้งกระโน้น เค๊าก็ใช้ชื่อช่างภาพตีคู่ไปกับชื่อสไตลลิสต์เหมือนสมัยนี้แหละ การพยายามเล่นกับคำด้วยมุขและกิมมิคแบบนี้ น่าจะเป็นเทรนด์หนึ่งของยุคสมัยนั้น ยุคที่ยังไม่มีเครื่องทุ่นแรงใดๆทั้งสิ้น การแต่งภาพอาจจะใช้วิธีการแต่งฟิลม์เลยด้วยซำ้ หน้าโฆษณาที่ไม่ได้มีปริมาณมหาศาลเหมือนอย่างทุกวันนี้ การรู็จักประหยัดงบด้วยการเลือกพิมพ์ 4 สีเป็นยกๆไป ที่เลือกมาพูดถึงไม่ได้จะเอาตลกโปกฮาหรือเหยียดหยามรสนิยมคนทำใดๆทั้งสิ้น แค่อยากบันทึกเอาไว้หน่อยว่า ครั้งหนึ่ง คำรน และ อมาตย์ เคยทำนิตยสารมีชีวิตเล่มนี้ที่ชื่อว่่า ANGEL (ราคา 45 บาทขาดตัวครับ)

1 comment:

Rachaporn Choochuey said...

ชอบ post นี้มาก สุดยอด retro ฮ่าๆๆ